ไอ-เจ็บคอ” แค่ไข้หวัด? หรือ ‘โควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน XEC’ มาเยือนลูกกันแน่?
ในช่วงหน้าฝนที่เริ่มมีการระบาดของเชื้อโรคทางเดินหายใจเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะเมื่อประกอบกับโรงเรียนเริ่มเปิดเทอมและเด็ก ๆ อยู่รวมกันเป็นจำนวนมาก จึงทำให้เกิดการระบาดของเชื้อโรคต่าง ๆ ได้ง่ายขึ้น เช่น ไข้หวัดใหญ่ RSV และโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่ กับเด็กเล็กที่คุณแม่ต้องระวัง
ซึ่งโควิด-19 ที่พบมีการระบาดมาตั้งแต่ช่วงสงกรานต์มาจนถึงปัจจุบัน แต่โควิด-19 สายพันธุ์ในปัจจุบันได้ลดความรุนแรงของโรคลงไปอย่างมากและกลายเป็นโรคประจำฤดูกาลไปแล้ว จึงทำให้คนที่ติดเชื้อส่วนใหญ่รักษาตัวเองอยู่ที่บ้าน หรือบางคนมีอาการน้อย คล้ายหวัดธรรมดาจึงไม่ได้ตรวจทำให้ไม่ทราบว่าตัวเองติดเชื้อและไม่ได้ป้องกันตัวเองหรือแยกตัว ทำให้การแพร่กระจายของโรคติดต่อได้ง่ายขึ้น
-
‘โควิด-19 สายพันธุ์ XEC’ คืออะไร? มาทำความรู้จักกัน!
จากรายงานของคุณหมอ ยง ภู่วรวรรณ (ราชบัณฑิต) สำนักวิทยาศาสตร์ ศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย พบว่า เชื้อโควิด-19 ที่ระบาดช่วงเดือนเมษายน 2568 นั้น เป็นสายพันธุ์ XEC ซึ่งเป็นสายพันธุ์หลานเหลนของโอไมครอน ซึ่งมีความรุนแรงของโรคลดลงมาโดยตลอด โดยจะมี อาการน้อย แต่แพร่กระจายได้รวดเร็ว อาการคล้ายไข้หวัด และมีอัตราการเสียชีวิตลดลงเป็นอย่างมาก
ข้อมูลในเดือนพฤษภาคม 2568 สายพันธุ์ที่พบการระบาดเป็นสายพันธุ์ล่าสุด คือ NB.1.8.1 ซึ่งเป็นสายพันธุ์ที่ติดง่ายมาก ๆ โดยคนที่ป่วย 1 คน สามารถแพร่กระจายไปให้ผู้อื่นได้อีก 3-6 คน ในระยะเวลา 3-5 วัน แต่ความรุนแรงของโรคไม่รุนแรง เพราะเป็นการติดเชื้อซ้ำ และคนที่เคยเป็นมาแล้วก็สามารถเป็นซ้ำได้อีกนะคะ
-
เช็กอาการ ‘โควิด-19 สายพันธุ์ XEC’ ให้เจ้าตัวน้อย
อาการของโควิด-19 จะมีอาการคล้ายกับไข้หวัดทั่วไป คือ มีไข้ ไอ น้ำมูก เจ็บคอ ปวดศีรษะ ปวดตามตัว บางรายอาจมีอาการอาเจียน ท้องเสียร่วมด้วย หากเจ้าตัวน้อยติดเชื้อโควิด-19 ครั้งแรก มักจะมีอาการมาก เช่น มีไข้สูงมากได้ในช่วง 1-2 วันแรก แต่ถ้าหากเคยเป็นโควิด-19 มาก่อน ร่างกายลูกจะมีภูมิต้านทานแล้ว อาการมักไม่รุนแรงเท่าครั้งแรก
ดังนั้นถ้าลูกน้อยมีอาการหวัด แล้วมีประวัติสัมผัสหรือใกล้ชิดกับคนที่ป่วยเป็นโควิด-19 เช่น อยู่ใกล้คนที่เป็นโควิด-19 หรือเพิ่งกินข้าวร่วมกัน โอกาสติดเชื้อค่อนข้างสูง จึงควรตรวจ ATK เพื่อยืนยันว่ามีการติดเชื้อโควิด-19 หรือไม่ หากตรวจวันแรกยังไม่ขึ้น อาจจะเป็นเพราะเชื้อยังน้อย แนะนำให้ตรวจอีกครั้งในวันต่อมา
-
เตรียมรับมือป้องกันและข้อแนะนำ
คุณพ่อคุณแม่สามารถป้องกันลูกน้อยให้ห่างไกลจากการติดเชื้อไวรัสต่าง ๆ ได้ ดังนี้…
-
สอนลูกน้อยให้ล้างมือบ่อย ๆ อย่างถูกวิธี ทั้งก่อน-หลัง ทานอาหาร หรือเมื่อเสร็จกิจกรรมต่าง ๆ
-
สวมหน้ากากอนามัยให้ลูก เมื่อต้องพาไปในที่ที่มีคนเยอะ
-
สวมหน้ากากอนามัยหากลูกน้อยมีอาการเจ็บป่วย
-
ทานอาหารที่สุกสะอาด ใช้ช้อนกลาง ไม่ใช้แก้วน้ำร่วมกับผู้อื่น
-
วัคซีนในปัจจุบันไม่มีความจำเป็น เพราะโควิด-19 ได้ลดความรุนแรงลงอย่างมากแล้ว
-
การดูแลเบื้องต้นหากลูกน้อยติด ‘โควิด-19 สายพันธุ์ XEC’
-
หากลูกน้อยไม่มีโรคประจำตัวและอาการไม่มาก คุณหมอจะให้ยารักษาตามอาการ เช่น ยาลดไข้ ให้พักผ่อน ทานอาหารอ่อน ๆ ดื่มน้ำให้มาก ๆ อาการมักหายเองได้เหมือนหวัดทั่วไป
-
หากลูกน้อยมีโรคประจำตัว หรือมีอาการรุนแรง เช่น ไข้สูง ซึม ทานได้น้อย มีอาการเหนื่อยหอบ ควรรีบพาลูกไปพบแพทย์
-
ควรให้ลูกน้อยแยกตัวอย่างน้อย 5 วัน นับจากวันที่เริ่มมีอาการ แม้อาการจะดีขึ้นจนหายแล้วแต่ลูกน้อยจะยังสามารถแพร่เชื้อให้คนรอบตัวได้อยู่ จากนั้นควรใส่หน้ากากอนามัย และแยกกินข้าวต่อจนครบ 10 วัน
-
หากใส่หน้ากากอนามัยไม่ได้ เช่น เด็กเล็กที่อายุต่ำกว่า 2 ขวบ ควรแยกตัวให้ครบ 10 วัน เพื่อความปลอดภัยไม่ให้แพร่เชื้อสู่คนรอบตัว
ขอบคุณข้อมูลจากคุณหมอแอน พญ.ปิยะรัตน์ เลิศบรรณพงษ์ กุมารแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
วันที่สร้าง 09/06/2025